กะหล่ำปลี
กะหล่ำปลีกินดีที่สุดในช่วงฤดูหนาวแบบนี้ซึ่งเป็นฤดูกาลของผักเมืองหนาว โดยเฉพาะผักตระกูลปลีที่กาบใบห่อหุ้มซ้อนกันชั้นแล้วชั่นเล่าตามสภาพอากาศที่หนาวเย็น ยิ่งหนาวมาก ยิ่งห่อตัวมาก พลังของการแผ่ขายจะยิ่งมาก คือเป็นหยินมาก เย็นมาก แต่กะหล่ำก็ปกป้องตัวเองด้วยการห่อหุ้มเข้าหาศูนย์กลางมันจึงหยางมากด้วยเช่นกัน ยิ่งห่อมากก็ยิ่งหยางมากคือมีพลังมาก (กะหล่ำปลีจึงเป็นผักหยินที่หยางสูง) ในฤดูหนาวเราต้องการอาหารที่ให้พลังงานเราได้มาก พืชตระกูลปลีที่มีใบห่อหุ้มจึงเป็นอาหารที่ดีที่ให้พลังงาน ทำให้ร่างกายอบอุ่น
อย่างไรก็ดี การกินกะหล่ำปลีในช่วงฤดูหนาวควรนำมาปรุงให้สุก จะผัด ต้มหรือตุ๋นก็ได้ลดความเป็นหยิน เวลากินจะทำให้ร่างกายไม่สูญเสียพลังงานไปมากกับการทำกะหล่ำสุกในกระเพาะอาหาร และใช้พลังงานมากในการบีบตัวและย่อย ที่สำคัญกะหล่ำฤดูกาลนี้ปลอดภัยที่สุด เพราะเป็นฤดูกาลของเขาที่ไม่จำเป็นต้องใส่ปุ๋ยหรือสารเคมีมาก ถ้าดินดีอากาศเย็นดี กะหล่ำปลีจะห่อหุ้มจนหัวปลีใหญ่มาก
มาเที่ยวสนามชัยเขตได้ไปชมแปลงผักพี่นุชเกษตกรตัวอย่าง เห็นแล้วชื่นใจน้ำตาแทบไหล เพราะกะหล่ำปลีหัวใหญ่บึ้ม กรอบหวานอร่อยเป็นที่สุด ลองเอามาตุ๋นกะหล่ำหวานมาก น้ำซุปหวานอรอยแทบไม่ต้องปรุงอะไรเลย ตุ๋นในหม้อแรงดันได้กะหล่ำปลีนุ่มละลายในปาก น้ำซุปหวานอร่อยแบบธรรมชาติ
กะหล่ำปลีตุ๋นเก๋ากี้
ส่วนผสม
- กะหล่ำปลีอินทรีย์ 1 หัว
- หอมใหญ่อินทรีย์ 1 หัว
- ดอกเกลือ
- น้ำตาลมะพร้าว
- น้ำแร่
- สาหร่ายคอมบุ
วิธีทำ
- ล้างกะหล่ำปลีให้สะอาด หั่นครึ่งหัวและแบ่งอีก2-3 ครั้ง
- ล้างหอมใหญ่ให้สะอาด แล้วหั่นเป็นชิ้นคล้ายกะหล่ำปลี
- เตรียมหม้อแรงดัน ใส่ผักทั้งสองอย่างในหม้อ ใส่คอมบุ เติมน้ำแร่ให้ท่วม เสร็จแล้วเติมเกลือและน้ำตาลมะพร้าวเล็กน้อย
- นำหม้อขึ้นตั้งไฟ เปิดไฟกลางค่อนแรง พอหม้อเดือดเบาไฟอ่อน ตุ๋นไปเรื่อยๆ ประมาณ 45 นาที ถึง 1 ชั่วโมง
- ปิดไฟรอแรงดันในหม้อลด เปิดหม้อเติมเก๋ากี้ลงไป ตั้งหม้อให้เดือดอีกครั้ง ปิดไฟ