fbpx

อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดงาน Kick Off วันถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตทุเรียนและการป้องกันกำจัดหนอนเจาะเมล็ดทุเรียน ย้ำทุเรียนภาคเหนือ  ต้องไม่มีทุเรียนอ่อน ปลอดภัยจากหนอนเจาะเมล็ดทุเรียน เพื่อรักษาชื่อเสียงและคุณภาพทุเรียน

จังหวัดอุตรดิตถ์ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งผลิตทุเรียนที่สำคัญอันดับต้นๆ ของประเทศ และถือเป็นแหล่งผลิตทุเรียนและโรงคัดบรรจุที่สำคัญของภาคเหนือตอนล่าง ในปี 2566 มีผลผลิตทุเรียนที่ส่งออกไปยังประเทศจีนของโรงคัดบรรจุในจังหวัดอุตรดิตถ์ จำนวน 694 ชิปเมนท์ ปริมาณ 11,844 ตัน มูลค่าการส่งออก 1,398 ล้านบาท ยังผลให้เกิดการตื่นตัวในเรื่องการควบคุมผลผลิตทุเรียนของจังหวัดอุตรดิตถ์และจังหวัดใกล้เคียงให้มีคุณภาพตามมาตรส่งออก ซึ่งหนึ่งในปัญหาสำคัญของผลผลิตทุเรียนคือ ปัญหาหนอนเจาะเมล็ดทุเรียนที่สร้างความเสียหายให้แก่ผลทุเรียนทั้งที่บริโภคในประเทศ และการส่งออกรวมถึงการส่งทุเรียนไปยังประเทศจีนซึ่งเป็นตลาดใหญ่ของไทย

ในงาน Kick off วันถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตทุเรียนและการป้องกันหนอนเจาะเมล็ดทุเรียน ณ ตำบลฝายหลวง อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ นายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ได้เน้นย้ำถึงการควบคุมคุณภาพสำหรับการส่งออก ผลผลิตทุเรียนว่า ต้องมาจากแปลง GAP มีการตรวจก่อนตัด (ตรวจ % น้ำหนักแห้งเนื้อทุเรียน)  โรงคัดบรรจุต้องได้รับการรับรองมาตรฐาน GMP มีเกณฑ์การจัดประเภทโรงคัดบรรจุเป็นสีเขียว เหลือง แดง ย้ำเตือนข้อกำหนดตามระเบียบกรมวิชาการเกษตร ว่าด้วยการรับรองแหล่งผลิตพืชตามมาตรฐาน ระบบการจัดการคุณภาพการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับพืช พ.ศ. 2555 และ หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการรับรองแหล่งผลิต GAP พืช รวมถึง ประกาศกรมวิชาการเกษตร เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขึ้นทะเบียน โรงงานผลิตสินค้าพืช พ.ศ. 2563 หากฝ่าฝืนกรมวิชาการเกษตร จะดำเนินการพักใช้ ยกเลิก เพิกถอนใบ GAP ใบ DOA ตามระดับความร้ายแรงของการกระทำความผิด ผลผลิตทุเรียนทุกผลต้องมีคุณภาพตามมาตรฐาน มกษ.3-2556 มีใบรับรองสุขอนามัยพืช (PC) ได้มีการกำชับให้นายตรวจพืช ตรวจสอบคุณภาพทุเรียนตามพิธีสารการส่งออกทุเรียนไทยไปจีน ไม่ให้มีศัตรูพืชกักกัน เช่น เพลี้ยแป้ง หนอนเจาะเมล็ดทุเรียน ติดไปกับผลทุเรียนส่งออกอย่างเด็ดขาด โดยกรมวิชาการเกษตรจะเป็นผู้ตรวจก่อนปิดตู้ทุกครั้ง

นอกจากนี้ยังให้กรมวิชาการเกษตรนำองค์ความรู้ เทคโนโลยีการป้องกันกำจัดหนอนเจาะเมล็ดทุเรียน และเทคโนโลยีการผลิตทุเรียนที่ดี มาใช้ในการผลิตทุเรียนในพื้นที่เขตจังหวัดอุตรดิตถ์ รวมทั้งการกำกับ และควบคุมคุณภาพตั้งแต่แปลงผลิต โรงคัดบรรจุ จนถึงหน้าด่านตรวจพืช

นายละเอียด ปั้นสุข ผู้อำนวยสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 2 กล่าวว่า ได้มีการประชุมประสานงานกับสำนักงานเกษตรจังหวัดอุตรดิตถ์ สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดอุตรดิตถ์ สำนักงานสหกรณ์จังหวัดอุตรดิตถ์ เทศบาลและองค์กรบริหารส่วนตำบลที่เกี่ยวข้อง และผู้แทนเกษตรกรปลูกทุเรียนในการสร้างการรับรู้ถึงผลกระทบของหนอนเจาะเมล็ดทุเรียนต่อการส่งออกทุเรียน โดยมาตรการกำจัดในการผลิตทุเรียนของภาคตะวันออก ประกอบด้วยแนวทางการดำเนินงาน 5 ขั้นตอน ดังนี้

ขั้นตอนที่ 1 ร่วมจัดทำแผนประชาสัมพันธ์ จดหมายข่าวให้กับผู้นำชุมชน กลุ่มเกษตรกร ในแต่ละพื้นที่ของจังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อให้เกิดความตะหนักถึงผลกระทบซึ่งหากตรวจพบหนอนเจาะเมล็ดทุเรียนทั้งในประเทศ และการส่งออก ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรอุตรดิตถ์ดำเนินการจัดทำแผ่นพับประชาสัมพันธ์ การป้องกันกำจัดหนอนเจาะเมล็ดทุเรียน

ขั้นตอนที่ 2 ให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานภาครัฐ ร่วมเป็นวิทยากรถ่ายทอดองค์ความรู้ และเทคโนโลยีการผลิตทุเรียน วิธีการป้องกันกำจัดหนอนเจาะเมล็ดทุเรียนทั้งแบบวิธีผสมผสาน และการใช้สารเคมีทางการเกษตรอย่างถูกต้องให้กับกลุ่มเกษตรกร เกษตรกร และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยต้องเร่งเข้าไปแนะนำให้ทันต่อช่วงเวลาที่มีความเสี่ยงในการเข้าทำลายผลผลิตของหนอนเจาะเมล็ดทุเรียน

ขั้นตอนที่ 3 เชิญผู้นำชุมชน ผู้แทนชุมชน ตัวแทนเกษตรกร เกษตรกร และเจ้าหน้าที่หน่วยงานปกครองในพื้นที่ของแต่ละพื้นที่ที่ปลูกทุเรียน ร่วมกันรณรงค์จัดกิจกรรมการป้องกันกำจัดหนอนเจาะเมล็ดทุเรียนให้ขยายพื้นที่เป็นวงกว้าง (Kick off) ครอบคลุมพื้นที่ปลูกเพิ่มมากขึ้น

ขั้นตอนที่ 4 การจัดทำแปลงต้นแบบแหล่งผลิตทุเรียนที่ดี สำหรับจุดเรียนรู้ของเกษตรกรด้านเทคโนโลยีการผลิต การใช้ปัจจัยการผลิต และวิธีการจัดการต่าง ๆ ในพื้นที่อำเภอเมือง อำเภอลับแล และอำเภอท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์

ขั้นตอนที่ 5 การติดตามและขยายผล การควบคุมปัญหาหนอนเจาะเมล็ดทุเรียนและปัญหาทุเรียนอ่อนในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์

นอกจากนี้ ยังมีการรณรงค์ของศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรอุตรดิตถ์ ร่วมกับสำนักงานเกษตรอำเภอลับแล สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองอุตรดิตถ์ และสำนักงานเกษตรอำเภอท่าปลา หน่วยราชการอื่นที่เกี่ยวข้อง และเกษตรกรในพื้นที่ ในกิจกรรมกำจัดหนอนเจาะเมล็ดทุเรียนให้ขยายพื้นที่เป็นวงกว้าง ได้แนะนำแนวทางวิธีการกำจัดหนอนเจาะเมล็ดทุเรียนในแปลงปลูกแบบผสมผสาน ดังนี้

(1) การเลือกใช้สารเคมีกำจัดหนอนเจาะเมล็ดทุเรียนถูกต้อง และเหมาะสม ได้แก่ การฉีดพ่นสารเคมีกำจัดดักแด้ของหนอนเจาะเมล็ดทุเรียนที่อยู่ในดิน เมื่อดินมีความชื้นที่เหมาะสม ส่วนการฉีดพ่นสารเคมีบนต้นทุเรียนให้เริ่มฉีดพ่นในระยะผลทุเรียนตั้งแต่อายุ 6 สัปดาห์หลังดอกบาน โดยฉีดพ่นทุก 5-7 วัน และหยุดพ่นก่อนเก็บเกี่ยว 7-10 วัน

(2) การแนะนำใช้ชีวภัณฑ์ในการกำจัดดักแด้ของหนอนเจาะเมล็ดทุเรียนที่อยู่ในดิน ด้วยวิธีการใช้เชื้อราเขียวเมตาไรเซียม หรือเชื้อราบิวเวอร์เรีย ในรูปแบบเชื้อสดอัตรา 400 กรัมต่อไร่ ผสมน้ำฉีดพ่นลงดินรอบทรงพุ่มในช่วงดินมีความชื้นเหมาะสมหรือเมื่อมีการตกของฝนแรกในพื้นที่ปลูก

(3) แนะนำให้เกษตรกรใช้กับดักแสงไฟ (หลอดแบล็คไลท์) ในแปลงปลูก และการแขวนเหยื่อพิษที่ต้นทุเรียน ในการล่อผีเสื้อกลางคืนหนอนเจาะเมล็ดทุเรียน (ตัวเต็มวัย) ซึ่งการกำจัดผีเสื้อจะช่วยลดปริมาณการเข้าทำลายของหนอนเจาะเมล็ดทุเรียนที่ผลผลิต 

สำหรับเกษตรกรชาวสวนทุเรียนที่สนใจสามารถขอรับการถ่ายทอดองค์ความรู้เทคโนโลยีการผลิต การขยายเชื้อราเขียวเมตาไรเซียม และเชื้อราบิวเวอเรียได้ที่กรมวิชาการเกษตร เพื่อนำไปใช้กำจัดหนอนเจาะเมล็ดทุเรียนและสามารถนำไปขยายผลต่อเชื้อผลิตได้เองต่อไป

Related posts
INNOVATIONNEWSSCOOP

depa เดินหน้าเต็มกำลัง ผลักดันภาคเกษตรกรรมไทย ก้าวสู่ยุคดิจิทัลเต็มรูปแบบ   | NEWS UPDATE

depa เดินหน้าเต็มกำลัง…
Read more
FOODFOOD IS LIFEINNOVATIONMARKETINGNEWS

FUTURE FOOD SYSTEM CONFERENCE & SHOW 2025 by Bio Buddyงานสัมมนาระดับนานาชาติ ด้วยนวัตกรรมอาหารแห่งอนาคตระบบนิเวศที่ยั่งยืน และการลงทุน"RE-GENERATIVE FOOD & AI: TRANSFORMING OUR FOOD SYSTEM"

FUTURE FOOD SYSTEM CONFERENCE & SHOW 2025 by Bio Buddy…
Read more
INNOVATIONNEWSTHE CAPTURE

“CIAME ASIA 2025” งานแสดงนวัตกรรมเครื่องจักรกลการเกษตรระดับเอเชียครั้งแรกในไทย | THE CAPTURE

“CIAME ASIA 2025”…
Read more
จดหมายข่าว
มาเป็นเพื่อนกับ THE FARMER

สมัครรับข่าวสาร ส่งตรงถึงอีเมลของคุณ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

From Soil To Soul

From soil to soul : พีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร หัวเรือใหญ่ภาคเกษตรไทย

Worth reading...