พลิกโฉมเกษตรไทยสู่ยุคใหม่! “พีรพันธ์ คอทอง” ชู 9 กลยุทธ์เด็ด! มุ่ง “Climate Smart” ปั้นผลผลิตมูลค่าสูง ดึงดูดนักลงทุน
นายพีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยถึงแผนยุทธศาสตร์สำคัญ 9 ด้าน ที่จะ “พลิกโฉม” ภาคเกษตรไทยให้ก้าวสู่การผลิตที่ “ฉลาด (Smart)” ทันสมัย ยั่งยืน และมีมูลค่าสูง เพื่อตอบโจทย์ทั้งเกษตรกรยุคใหม่และดึงดูดนักลงทุน โดยมุ่งเน้นการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) และการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ
💡 กลยุทธ์หลัก: สร้างเกษตรอัจฉริยะ มูลค่าสูง ทนทานต่อการเปลี่ยนแปลง
นายพีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เน้นย้ำว่า เป้าหมายของแผนนี้คือการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของสินค้าเกษตรไทยในตลาดโลก พร้อมสร้างความมั่นคงทางรายได้ให้กับเกษตรกร ผ่าน 9 กลยุทธ์สำคัญ ดังนี้:
1. ฐานราก “Climate Smart Agriculture”: เร่งพัฒนา แปลงต้นแบบ Climate Smart Agriculture (CSA) จำนวน 200 แปลง เพื่อเป็นต้นแบบการผลิตที่เหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตได้สูงถึง 20% และต่อยอดสู่การผลิตมูลค่าสูง
2. ปรับโครงสร้างพืชเศรษฐกิจ: ส่งเสริมการปรับเปลี่ยนไปปลูกพืชที่สร้างรายได้หลายทาง เช่น กาแฟ, กล้วยหอม, และถั่วเหลือง โดยมีเป้าหมายเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ให้มากกว่า 25%
3. มาตรฐานส่งออกระดับสากล: ยกระดับความปลอดภัยด้วยการดำเนินการผ่าน คลัสเตอร์ GAP (Good Agricultural Practices) ควบคู่กับ ระบบเตือนภัยโรคและแมลง และการ ตรวจสารตกค้างสม่ำเสมอ เพื่อให้เกษตรกรเข้าถึงและรองรับมาตรฐานสากล
🌐 ข้อมูลแม่นยำ เทคโนโลยีนำทางสู่การค้าสากล
4. สร้างฐานข้อมูลเกษตรแม่นยำ: จัดทำ ฐานข้อมูลแปลงเกษตรที่มีพิกัด GPS และพัฒนาระบบ ตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability) แบบเรียลไทม์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคและคู่ค้า
5. พันธุ์พืชคุณภาพสูง: พัฒนา ระบบเมล็ดพันธุ์คุณภาพสูง ที่สามารถทนทานต่อสภาพภูมิอากาศ โรค และแมลง ได้อย่างน้อย 30 ชนิด เพื่อลดความเสี่ยงจากการเพาะปลูก
6. ระบบสุขภาพพืชครบวงจร: เชื่อมโยงการทำงานแบบบูรณาการผ่าน ศูนย์จัดการศัตรูพืชชุมชน (ศจช.) ตั้งเป้าลดพื้นที่ระบาดโรคและแมลงศัตรูพืชลง 15% และลดความเสียหายรวมมากกว่า 30%
7. เสริมศักยภาพ “ผู้ให้บริการทางการเกษตร”: พัฒนาเครือข่าย Agriculture Service Provider (ASP) โดยเสริมทักษะด้านการจัดการทางการเงินและการให้บริการ เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการสนับสนุนเกษตรกร
🛍️ ปั้นแบรนด์พรีเมียม บุกตลาด E-Commerce
8. ผลักดันสินค้าเกษตรพรีเมียมสู่ตลาดโลก: สร้างสรรค์ สินค้าเกษตรพรีเมียมอย่างน้อย 100 แบรนด์ เสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันด้วยการพัฒนาภาพลักษณ์ จุดขายเฉพาะ และการ ออกแบบผลิตภัณฑ์ (Product Design) รวมถึง ยกระดับคุณภาพ บรรจุภัณฑ์ และมาตรฐานสินค้า ให้ตรงกับความต้องการผู้บริโภคยุคใหม่ พร้อมใช้ E-Commerce และเครือข่ายค้าปลีกสมัยใหม่ขยายโอกาสทางการตลาดทั้งในและต่างประเทศ
9. อัพเกรดเจ้าหน้าที่ส่งเสริม: พัฒนาเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรอย่างน้อย 80% ให้เป็น Climate Smart Extension Officers ที่สามารถใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและการจัดการข้อมูลเพื่อการตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายพีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวทิ้งท้ายว่า “นี่คือการลงทุนเพื่ออนาคตของภาคเกษตรไทย เรากำลังสร้าง ‘เครื่องยนต์ใหม่’ ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและข้อมูล เพื่อให้ผลผลิตมีคุณภาพมาตรฐานสากล ตอบโจทย์ตลาดพรีเมียม และสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าให้กับทั้งเกษตรกรและนักธุรกิจที่สนใจจะเข้ามาร่วมลงทุนในห่วงโซ่อุปทานเกษตรอัจฉริยะ
#เกษตรอัจฉริยะ #ClimateSmartAgriculture #เกษตรแม่นยำ #SmartFarming #เกษตรมูลค่าสูง #เกษตรยั่งยืน
#กรมส่งเสริมการเกษตร #THECAPTURE #เกษตรกร #เกษตรกรรุ่นใหม่ #THEFARMER #GrowingAgriCulture
ติดตามเรื่องราวจาก THE FARMER ได้หลากหลายช่องทาง
——–
𝗧𝗛𝗘 𝗙𝗔𝗥𝗠𝗘𝗥: 𝗴𝗿𝗼𝘄𝗶𝗻𝗴 ◦ 𝗮𝗴𝗿𝗶 ◦ 𝗰𝘂𝗹𝘁𝘂𝗿𝗲 | 𝘙𝘦𝘨𝘦𝘯𝘦𝘳𝘢𝘵𝘪𝘷𝘦 𝘙𝘪𝘴𝘦
Facebook: https://www.facebook.com/thefarmer.th
YouTube: https://www.youtube.com/@thefarmerth
Instagram: https://www.instagram.com/thefarmerthai/
Twitter: https://www.twitter.com/thefarmerthai
TikTok: https://www.tiktok.com/@thefarmer.th



